
หลายครั้งพ่อแม่ตกหลุมพรางคำว่า
‘ลูกเก่ง’ เท่ากับ ‘ลูกคิดเป็น’ ซึ่งไม่ใช่!
เราจึงมักเห็นเด็ก 5 ขวบ เก่งเขียน ก-ฮ คล่อง แต่พอทำน้ำหกกลับร้องไห้ไม่รู้จะทำอย่างไร
หรือสอบได้ที่ 1 แต่ยังดิ้นพราดจะเป็นจะตายถ้าไม่ได้คะแนนเต็ม
กลายเป็นว่าลูกเรียนเก่ง แต่ชีวิตจริงเมื่อเผชิญปัญหากลับรับมือไม่ได้
การเรียนอย่างเดียวให้ลูกได้แค่ “ความรู้”
แต่การเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือ “ฝึกวิธีคิด” ให้ลูก
การฝึกวิธีคิดของลูกเกิน 90% ได้จากการเล่น การตั้งคำถาม การใช้เวลากับพ่อแม่
ทำงานด้วยกัน คุย สบตา สัมผัส กอด ได้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน
โดยเฉพาะการฝึกตั้งคำถาม จะช่วยให้ลูกพัฒนาสมองส่วนคิดได้มาก
เรียนรู้การใช้เหตุผล บางสถานการณ์ยังช่วยฝึกควบคุมอารมณ์
เช่น ลูกทำน้ำหก แทนที่จะดุก็เปลี่ยนมาถามลูกว่า “น้ำหกจะทำยังไงดีนะ”
หรืออ่านนิทานจบก็ลองชวนลูกคุยต่อ “ถ้าหนูเป็นเหมือนหมีน้อยในเรื่องจะทำแบบนั้นมั้ยจ้ะ”
พ่อแม่ควรหมั่นตั้งคำถามให้ลูกฝึกคิดเนียนไปกับเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน
ตั้งคำถามจากเรื่องที่ลูกชอบหรือสนใจก่อนเป็นหลัก
เปิดโอกาสให้ลูกได้ถามบ่อยๆ ไม่รำคาญความช่างซักช่างถามซ้ำๆ
บ่อยครั้งเรายังต่อยอดช่วยลูกหาคำตอบจากการ “ลองทำดู”
ลองผิดลองถูกได้ไม่เป็นไร จะช่วยฝึกให้ลูกกล้าตัดสินใจและเรียนรู้ผลที่ตามมาได้อีก
การอ่านนิทานและตั้งคำถามจากเรื่องก็เป็นวิธีพัฒนาสมองส่วนเหตุผลให้ลูกได้ดี
เพราะเด็กสนุกและจดจ่อกับนิทานอยู่แล้ว พร้อมซึมซัมพฤติกรรมจากตัวละครที่เขาชอบ
นิทาน ชุดฉันชื่ออองตอง ปลูกฝังให้เด็กช่างสงสัยใคร่รู้ผ่านเหตุการณ์ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน แถมหุ่นนิ้วและตุ๊กตากระดาษภายในเล่มใช้ต่อยอดความคิดและจินตนาการสนุกและ ชุดนิทานต่างมุม เป็นนิทานปลายเปิดฝึกลูกใช้สมองส่วนเหตุผล บอกเล่าตอนจบได้เองตามจินตนาการ ไม่มีถูกผิด ฝึกคิดและเรียนรู้ทักษะชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นที่แตกต่าง เป็นนิทานได้รับรางวัลหนังสือดีเด่น สพฐ. ปี 61