
เด็ก 2-3 ปี เป็นวัยที่เริ่มเป็นตัวของตัวเอง ยึดตัวเองเป็นหลัก จึงมักชอบทำในสิ่งตรงข้ามที่ผู้ใหญ่บอก ทำให้พ่อแม่ปวดหัวบ่อยๆ ซึ่งถือเป็นพัฒนาการอย่างหนึ่งของเด็กวัยนี้ ไม่ได้ถือเป็นนิสัยเสียร้ายแรงที่แก้ไขไม่ได้ วิธีรับมือกับลูกชอบเถียงจึงไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ เราสามารถทำได้ดังนี้
1. รับฟังลูกอย่างใจเย็น เป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรทำเป็นอันดับแรก ใช้เหตุผลอธิบายง่ายๆ กับลูกอย่างอดทน เพราะเจ้าตัวเล็กอาจเถียงข้างๆ คูๆ ไม่ฟังเหตุผลด้วยเขายังเล็กเกินไป เช่น “หนูจะเล่นต่อ! ยังไม่อยากอาบน้ำนะ” ลูกอาจกำลังลองใจว่าพ่อแม่จะจริงจังกับเขาแค่ไหน พ่อแม่ต้องไม่ใช้อารมณ์หรือบังคับ หรือยอมปล่อยผ่าน แต่ให้บอกลูกว่า “การพูดแบบนั้นไม่น่ารัก และแม่จะไม่ยอมทำตาม”
2. เมื่อลูกสงบจึงอธิบาย เด็กส่วนใหญ่มักแสดงอาการต่อต้าน ร้องไห้ อาละวาด พ่อแม่ควรรอจนลูกสงบก่อนจึงเข้าไปกอด ทำให้ลูกอารมณ์ดีขึ้น แล้วค่อยๆ สอนลูกว่า การเถียงหรือพูดแบบนั้นลูกจะไม่ได้รับการตอบสนองเลย แนะนำให้ลูกพูดจาด้วยน้ำเสียงสุภาพ โดยพ่อแม่ควรพูดเป็นตัวอย่างให้ฟังก่อนแล้วให้ลูกพูดตาม และอย่าลืมชมเชยให้กำลังใจลูกด้วยเมื่อลูกพูดได้
3. ให้คำแนะนำและสร้างความมั่นใจ แนะนำลูกให้รู้จักบอกเหตุผลหรือสิ่งที่ตัวเองคิด เพื่อแม่จะได้เข้าใจ ขณะเดียวกันก็อธิบายให้ลูกรู้ว่า ทำไมแม่จึงไม่ทำตามสิ่งที่เขาต้องการและต้องให้ลูกทำอย่างนั้น อาจใช้โอกาสนี้ในการสอนให้ลูกรู้จัก “การขอโทษ” และแก้ตัวใหม่ ลองสมมุติว่าเกิดเหตุการณ์นี้อีก ถามลูกว่าควรจะพูดจาอย่างไรให้น่าฟัง
นอกจากนี้ พ่อแม่ควรหมั่นพูดคุยถึงความคิด ความรู้สึกให้ลูกฟังในบรรยากาศสบายๆ เพื่อให้ลูกรู้จักการแสดงความรู้สึก ความคิดเห็นที่เหมาะสม ซึ่งเป็นการเรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติผ่านกิจวัตรประจำวันที่น่าจะช่วยแก้ปัญหาลูกชอบเถียงที่ได้ผลอีกวิธีหนึ่งค่ะ
การฉี่รดที่นอนของเด็กเล็ก ๆ วัย 1-5 ปี เป็นเรื่องปกติ เพราะพัฒนาการทางร่างกายยังไม่สมบูรณ์ นิทานภาพคำกลอนเล่มนี้มีวิธีแก้ปัญหาลูกฉี่รดที่นอน ด้วยการฝึกให้ลูกปัสสาวะก่อนเข้านอน และไม่ควรอารมณ์เสีย ดุว่า หากลูกยังปรับตัวไม่ได้