6 ที่เที่ยวสุดเฟี้ยวต้อนรับปิดเทอม

6 ที่เที่ยวสุดเฟี้ยวต้อนรับปิดเทอม

ช่วงเวลาที่เด็กๆ รอคอยมาถึงแล้วค่ะ หลายคนเฝ้ารอช่วงเวลานี้เพราะจะได้เที่ยวและทำกิจกรรมสนุกๆ กับครอบครัว บางคนเข้าค่ายฝึกทักษะกีฬา ศิลปะ ภาษา ดนตรี ตามความสนใจ บางคนท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่ๆ วันนี้เรามีสถานที่เที่ยวที่เป็นแหล่งเรียนรู้แสนสนุกมาฝากเด็กๆ มีที่ไหนบ้างลองมาดูกันค่ะ

1. พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น  จ.พระนครศรีอยุธยา แหล่งสะสมของเล่นระดับโลกจำนวนมาก ทั้งของเล่นอายุนับร้อยๆ ปี ไปจนถึงของเล่นยุคปัจจุบัน ทั้งของไทยและต่างประเทศ  รวมถึงของเล่นสังกะสีจำนวนมากซึ่งถือเป็นยุคทองของการเล่น ภายในจัดแบ่งเป็น 2 ส่วน คือด้านนอกอาคาร ให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจใต้ต้นไม้ใหญ่นานาพันธุ์ มีร้านอาหารคอยบริการ และส่วนของอาคารพิพิธภัณฑ์หลังใหญ่ 2 ชั้น ชั้นล่างจัดแสดงของเล่นยุคเก่าทั้งตุ๊กตาดินเผา กระปุกออมสิน ข้าวของเครื่องใช้ยุคโบราณ ส่วนชั้นบนรวบรวมโมเดลการ์ตูนขนาดใหญ่อย่างอุลตร้าแมน  ซุปเปอร์แมน  สไปเดอร์แมน  และของเล่นสังกะสีหลากหลายรูปแบบ หากมาในวันหยุดจะได้พบกับกิจกรรมน่าสนใจสำหรับเด็กอย่างชั่วโมงนิทาน  ศิลปะ กิจกรรมสร้างสรรค์  ปลูกฝังความคิดและจินตนาการ  

2. พิพิธภัณฑ์เด็ก  กรุงเทพฯ  นอกอาคารมีทั้งเครื่องเล่นสนามให้ปีนป่าย  ภายในอาคารแบ่งเป็นโซนเด็กโตและเด็กเล็ก สนุกกับกิจกรรมหลากหลาย อาทิ ลานสร้างสรรค์เปิดโลกจินตนาการ  โซนวิทยาศาสตร์ค้นคว้าทดลอง  ห้องปรุงอาหารกับครัวไทยวัยจิ๋ว  โซนนักสืบไดโนเสาร์  ให้เด็กย้อนกลับไปสู่ยุคดึกดำบรรพ์  ในส่วนของเด็กเล็กมีกิจกรรมช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัส เช่น ฟังเสียงสิ่งมีชีวิต สนุกกับอาชีพในเมืองจำลองส่งเสริมให้เด็กกล้าแสดงออกและเล่นบทบาทสมมุติ

3. พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย  จ.นครปฐม เมื่อเข้ามาภายในห้องจัดแสดง  เด็กจะได้พบกับหุ่นที่สร้างจากไฟเบอร์กลาสที่มีความคงทน ประณีต  งดงามเหมือนคนจริงๆ กว่า 120 ตัว เช่น ห้องพระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรี ห้องพระอริยสงฆ์ ห้องบุคคลสำคัญของไทย ห้องการละเล่นของเด็กไทย อย่างรีรีข้าวสาร จ้ำจี้มะเขือเปราะ แมงมุมลาย ฯลฯ มาที่นี่นอกจากจะได้รับความรู้แล้วยังได้ชื่นชมฝีมือของคนไทยด้วยค่ะ


4. ลุยโคลนที่คลองโคน  จ.สมุทรสงคราม  หากครอบครัวไหนอยากท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติก็นับว่าที่นี่เหมาะมากค่ะ คุณพ่อคุณแม่สามารถพาเด็กๆ นั่งเรือหางยาวชมนกนานาชนิด ชมพื้นที่ป่าชายเลน ดูต้นโกงกาง ต้นแสม ระหว่างทางจะได้เห็นเจ้าลิงแสมออกมาทักทาย ได้สัมผัสชีวิตชาวประมงอย่างใกล้ชิด ลองถือกระดานเลนหาหอยแครงด้วยตัวเอง ถ้าอยากปลูกป่าชายเลน ทางอบต.คลองโคนก็มีกล้าไม้และอุปกรณ์การปลูกเตรียมไว้ให้  สามารถพักค้างคืนแบบโฮมสเตย์ในราคาประหยัดอีกด้วย


5. ส่องสัตว์ที่เขาดิน สวนสัตว์ใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ บนพื้นที่กว่า 118 ไร่ รวบรวมสัตว์ป่าหายากและใกล้สูญพันธุ์นานาชนิด มีมุมนั่งพักผ่อนหย่อนใจ มีเรือถีบให้พายเล่นนอกจากจะได้ดูสัตว์หลากหลายสายพันธุ์แล้ว จุดที่ไม่ควรพลาดคือ 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่สวนสัตว์เขาดินภูมิใจนำเสนออย่างเก้งเผือก ละมั่งพันธุ์ไทย แพนด้าแดง ค่างห้าสี  หลุมหลบภัยสมัยสงครามโลก ต้นสักอายุร้อยกว่าปี และจุดชมวิวพระที่นั่งอนันตสมาคม ถ้าไม่อยากเดิน จะนั่งรถพ่วงเที่ยวชมก็จ่ายเพียงคนละ 20 บาทเท่านั้นค่ะ


6. ดูดาวที่ท้องฟ้าจำลอง สนุกกับเรื่องราวของดาราศาสตร์และจักรวาล แบ่งเป็น 2 โซน คือ ห้องฉายดาว ที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ โดยเพิ่มระบบแสง สี เสียงให้ดูตื่นเต้นเร้าใจ และส่วนนิทรรศการที่สัมพันธ์กับหมู่ดาว ภายนอกยังมีอาคารจัดแสดงปลาหลายสายพันธุ์  อาคารห้องสมุดของการศึกษานอกโรงเรียน  และส่วนจัดแสดงเรื่องภูมิศาสตร์และไดโนเสาร์สายพันธุ์ต่างๆ อีกด้วย


การพาลูกเที่ยวตามแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ถือเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อย่างหนึ่ง  เปิดประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่ๆ แล้วยังสร้างความผูกพันในครอบครัวอีกด้วย ปิดเทอมนี้อย่าลืมพาเจ้าตัวเล็กไปเที่ยวกันนะคะ